ลดความอ้วนแบบ ชิว ชิว ด้วยใช้หลัก BMI
ก่อนจะลดความอ้วน เรามาให้คำนิยามของคำว่า “อ้วน” กันก่อนดีไหม ว่าแบบไหนที่เรียกว่า “อ้วน” บางทีเราแค่อวบ แต่เราต้องการให้น้ำหนักลดลงกว่าที่เป็นอยู่ หรือบางทีเราไม่ได้อ้วนเลย แต่เราต้องการให้หุ่นของเราเฟิร์มขึ้น แข็งแรงขึ้น เป็นต้น
วันนี้เราจะคุยถึงวิธีลดความอ้วน สำหรับคนที่อ้วนแบบค่าดัชนีมวลกาย (BMI: Body Mass Index) สูงกว่าที่มาตรฐานกำหนดนะคะ ซึ่งค่าดัชนีมวลกาย (BMI: Body Mass Index) นั้นคำนวณมาจากน้ำหนักตัวและส่วนสูง คำนวณได้โดยการนำ น้ำหนักตัว(หน่วยเป็นกิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูงกำลังสอง (หน่วยเป็นเมตร) น้ำหนักตัว (kg) / ส่วนสูง m2> เช่น ณิชาสูง 160 ซ.ม. และน้ำหนักอยู่ที่ 70 กิโลกรัม ดังนั้น ค่าดัชนีมวลกาย (BMI: Body Mass Index) ของ ณิชา คือ 70/160 = 27.34 BMI ถ้าเทียบกับตารางข้างล่างจะเห็นได้ว่า ณิชา นั้นอ้วนอยู่ในระดับ 2
ตารางการประเมินค่าดัชนีมวลกาย
BMI |
BMI |
การแปรผล |
< 18.5 |
< 18.5 |
น้ำหนักน้อยกว่ามาตรฐาน |
18.5-24.9 |
18.5-22.9 |
ปกติ |
25-29.9 |
23-24.9 |
อ้วนระดับ 1 |
30-34.9 |
25-29.9 |
อ้วนระดับ 2 |
35-39.9 |
มากกว่าหรือเท่ากับ 30 |
อ้วนระดับ 3 |
มากกว่าหรือเท่ากับ |
- |
อ้วนระดับ 4 |
เมื่อเรารู้ตัวเราแล้วว่าอ้วนระดับสองก็ไม่ต้องตกใจ เพราะมันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่เราต้องกลับมาทำคือ การศึกษาตัวเองว่าตอนนี้พฤติกรรมของเราเป็นอย่างไรมีอะไรบ้างที่ส่งเสริมให้เรายิ่งอ้วนขึ้น หรือ ทำให้เราผอมลง วิธีชิว ๆ ง่ายสุด คือ
-
การออกกำลังกายทุกวันติดต่อกันอย่างน้อย 30 นาที ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง หรือ ดูยูทูปแล้วออกกำลังตามแบบไหนก็ได้
-
จัดเมนูตารางอาหารในชีวิตประจำวันใหม่ เลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการในปริมาณที่เหมาะสม
-
นับแคลอรี่ว่าวันหนึ่งเราต้องการกี่แคลอรี่ และอาหารที่เราทานนั้นมีกี่แคลอรี่
-
เคี้ยวอาหารให้ช้าขึ้น
-
รับประทานผลไม้ที่ทำให้เราอิ่มเร็วขึ้นก่อนรับประทานอาหารมื้อหนัก
ไม่ยากเลยใช่ไหมค่ะ การลดความอ้วนที่จะให้ได้ผลเราควรมีวินัยต่อตนเองและทำจัดตารางชีวิตใหม่ให้ได้อย่างน้อยสามเดือนรับรองเห็นผลแน่ ๆ ค่ะ