บ้านเราประเทศไทยเป็นประเทศที่มีแสงแดดจ้ามาก ชาวต่างชาติที่ต้องการผิวสีแทนจึงเดินทางเข้ามาในประเทศไทยและอาบแดดกันอย่างมากมาย ตรงกันข้ามกับคนไทยเรา ที่พอเห็นแดดแล้วจิเป็นลม และไม่ค่อยกล้าท้าแดดสักเท่าไหร่ เราจึงเลือกที่จะหยิบทากันแดดทั้งผิวกายและผิวหน้าก่อนออกจากบ้านเสมอ
และพวกเรารู้เคยสังเกตุบ้างไหมว่า ครีมกันแดด จะเขียนคำว่า UV และ SPF ไว้เสมอที่ข้างกล่องเพื่อบอกรายละเอียดเราว่าครีมกันแดดยี่ห้อนี้ กันแสง UV และมีค่า SPE50 (อยู่ที่เท่าไหร่) แล้วเราพอรู้จักกันบ้างไหมว่า ว่า UV และ SPF คืออะไร
เริ่มต้นด้วย UV ซึ่งมีทั้งหมด 3 ประเภท แบ่งตามคลื่นความยาว ดังนี้ค่ะ
UVA : มีความยาวคลื่นยาวที่สุด ทะลุได้ตั้งแต่ชั้นผิวกำพร้าจนถึงชั้นหนังแท้ ในระยะยาวส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระในชั้นผิว ซึ่งทำลายความยืดหยุ่นของเซลล์ผิวหนัง และทำให้เกิดริ้วรอย ผิวหนังเหี่ยวย่น ก่อนวัยอันควร
UVB : มีความยาวคลื่นปานกลาง จึงไม่สามารถทะลุสู่ผิวชั้นลึกได้เท่า UVA แต่ก็มีความรุนแรงต่อผิวของเราไม่แพ้กันเพราะ UVB จะส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น แสบร้อน แดง และไหม้เกรียมหากโดนแดดจัดนานๆ
UVC : รังสีที่มีความยาวคลื่นสั้นที่สุด ซึ่งถูกชั้นบรรยากาศของโลกเรากรองไว้ได้ทั้งหมด จึงไม่เป็นอันตราย
ส่วนค่าตัวเลข SPF และ PA ที่ระบุในครีมกันแดดมีความหมายดังนี้ค่ะ
SPF : แสดงถึงระยะเวลาในการปกป้องผิวจากรังสี UVB โดยค่า SPF 1 ช่วยให้ผิวทนรังสี UVB ได้นาน 10 นาที เช่น ครีมกันแดดที่มี SPF 15 จะสามารถปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ 150 นาที
PA : แสดงถึงระดับการปกป้องรังสี UVA โดยระดับการปกป้องจะระบุด้วยจำนวนของเครื่องหมาย “+” ถ้าหากทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานควรเลือกค่า PA+++