เมื่อเราอายุมากขึ้นสิ่งที่หลีกหนีไม่พ้นคือโรคภัยไข้เจ็บ คนที่อายุมากขึ้นนั้นมักมีภาวะอ้วนเพราะเนื่องจาก อัตราการเผาผลาญพลังงานลดลงในขณะที่การรัปประทานอาหารยังคงเท่าเดิม ว่าที่จริงคนสูงอายุส่วนใหญ่ทานมากขึ้นกว่าเมื่อครั้งเป็นหนุ่มสาวเสียอีก เพราะรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น และโอกาสในการรับประทานอาหารนั้นมีแทบจะตลอดเวลา โรคภัยเงียบอย่างหนึ่งที่มักพบในผู้มีอายุในไทยคือโรคความดันโลหิตสูง
โดยการอ่านค่าความดันโลหิตนั้น คุณหมอจะอ่านค่าเป็น 2 ช่วงคือความดันช่วงบน และ ความดันช่วงล่าง
ความดันช่วงบน หรือความดันซิสโตลี (Systolic blood pressure)
หมายถึง แรงดันเลือดขณะที่หัวใจบีบตัว ซึ่งอาจจะ สูงตามอายุ ความดันช่วงบนในคน ๆ เดียวกันอาจมีค่าแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ตามท่าของร่างกาย การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ และปริมาณของการออกกำลัง
ความดันช่วงล่าง หรือความดันไดแอสโตลี (Diastolic blood pressure )
หมายถึง แรงดันเลือดขณะที่หัวใจคลายตัว ในปัจจุบัน ได้มีการกำหนดค่าความดันโลหิต และระดับความรุนแรงของโรคความดันโลหิตสูง สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป (โดยการวัดในท่านั่ง วัดอย่างน้อย 2 ครั้งขึ้นไป แล้วคิดเป็นค่าเฉลี่ย)
ความดันโลหิตที่วัดได้ (mm Hg)* |
|||
ความรุนแรงของความดันโลหิต | Systolic | Diastolic | จะต้องทำอะไร |
ความดันโลหิตที่ต้องการ | น้อยกว่า 120 | น้อยกว่า 80 | ให้ตรวจซ้ำใน 2 ปี |
ความดันโลหิตปกติ | 120-129 | และหรือ80/84 | |
ความดันโลหิตสูงขั้นต้น Prehypertension | 130-139 | และหรือ 85-89 | ตรวจซ้ำภายใน 1 ปี |
ความดันโลหิตสูง | |||
ความดันโลหิตสูงระดับ 1 Stage 1 (mild) | 140-159 | และหรือ 90-99 | ให้ตรวจวัดความดันอีกใน 2 เดือน |
ความดันโลหิตสูงระดับ 2 Stage 2 (moderate) | 160-179 | และหรือ100-109 | ให้พบแพทย์ใน 1 เดือน |
ความดันสูงระดับ 3 (severe) | มากกว่าหรือเท่ากับ 180 | และหรือมากกว่า110 | ควรพบแพทย์ในทันที |
ความดันโลหิตปกตินั้นคือ120 / 80 หมายความว่าค่าความดันช่วงบนอยู่ที่ 120 และ ความดันช่วงล่างอยู่ที่ 80
ถึงแม้ ไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดในทางการแพทย์ถึงปัจจัยที่มีต่อโรคความดันโลหิตสูง หากแต่เขียนได้คลุกคลีกับผู้มีความดันโลหิตสูงหลายท่าน พบว่าส่วนใหญ่ล้วนไม่ออกอาการ แต่อย่างไรก็ตามมันเกิดกับคนที่มีภาวะอ้วน มากกว่าคนผอม
ทางออกสำหรับผู้เป็นโรคความดันโลหิต
ทางออกที่นอกจากการรับประทานยาลดความดันที่ดีนั่นคือ การหันมาปรับนิสัยการกินการอยู่ของเราเอง ให้รู้จักทานแต่พอเหมาะ ทานของที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆ ไม่เค็ม ไม่มัน นอนพักผ่อนตามนาฬิกาของร่างกายของเรา ไม่นอนดึกจนเกินไป และ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม สม่ำเสมอ